พลังงานทดแทน (Renewable Energy)
คือ พลังงานที่มาจากแหล่งทรัพยากรที่ธรรมชาติสามารถนำมาเติมเต็มได้ใหม่ในช่วงที่มนุษย์กำเนิดและมีชีวิตอยู่ เช่น แสงแดด ลม ฝน น้ำขึ้นน้ำลง
คลื่น และความร้อนใต้พิภพ พลังงานทดแทนถูกนำมาใช้แทนเชื้อเพลิงสำหรับการให้พลังงานแบบดั้งเดิม 4 รูปแบบ ได้แก่ การกำเนิดไฟฟ้า การทำน้ำหรือพื้นที่ให้ร้อน
เชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ และพลังงานในชนบท (อิสระจากระบบ หรือ off – grid)
ที่มา : http://www.rebltd.ca/markets/#!prettyPhoto
จากการรายงานของ
REN21
ในปี ค.ศ. 2014 พบว่า ใน ค.ศ. 2012 และ 2013 พลังงานทดแทนร้อยละ 19 ถูกใช้เป็นพลังงานที่ใช้เพื่อการบริโภค
และร้อยละ 22 ใช้เพื่อการผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า ตามลำดับ
ซึ่งทั้งคู่มาจากพลังงานทดแทนสมัยใหม่ เช่น พลังน้ำ ลม และเชื้อเพลิงชีวภาพ
พร้อมกับพลังงานจากชีวมวลที่คอยสนับสนุนซึ่งมีสัดส่วนที่เท่ากับส่วนที่จ่ายพลังงานให้กับโลก
ในปี ค.ศ. 2013 การลงทุนทางการเงินเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทนทั่วโลกมีมูลค่ามากกว่า 214 พันล้านเหรียญอเมริกา ซึ่งมีมากในจีนและอเมริกาโดยเฉพาะกับการลงทุนด้านพลังงานลม
น้ำ แสงแดด และเชื้อเพลิงชีวมวล
แหล่งพลังงานทดแทนมีอยู่ทั่วไปตามลักษณะภูมิศาสตร์ที่ต่างกัน
การพัฒนาพลังงานทดแทนและประสิทธิภาพด้านพลังงานเป็นไปอย่างรวดเร็วด้วยเหตุผลจากความมั่นคงด้านพลังงาน
ภาวะโลกร้อน และผลประโยชน์ทางด้านเศรษฐศาสตร์
นอกจากนี้จากการสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วโลกนี้
พบว่าประชากรสนับสนุนให้ใช้พลังงานทดแทน เช่น จากแสงแดดและจากพลังงานลม ส่วนในระดับประเทศนั้น พบว่าอย่างน้อย 30
ประเทศรอบโลกนี้ใช้พลังงานทดแทนมากกว่าร้อยละ 20 แทนพลังงานเดิม
ที่มา : http://usncre.org/
โดยส่วนมากโปรเจ็คต์งานด้านพลังงานทดแทนจะมีขนาดใหญ่
แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังสามารถที่จะใช้กับชนบทและพื้นที่กันดานและประเทศที่กำลังพัฒนา
ทั้งนี้เพราะพลังงานเป็นสิ่งจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ ถึงขนาดที่นายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวไว้ว่า พลังงานทดแทนนั้นสามารถจะยกฐานะประเทศที่ยากจนให้เป็นประเทศที่ร่ำรวยได้
อ้างอิง : http://en.wikipedia.org/wiki/Renewable_energy
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น